วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Full Review iPhone6 เขื่องขึ้น อึดขึ้น ยาวขึ้น ด้วยกัน โปร่งแสงขึ้น !!

Full Review iPhone 6 ใหญ่ขึ้น อึดขึ้น ยาวขึ้น พร้อมด้วย บางขึ้น !!
สวัสดีครับ ก็เจอกันเป็นประจำกันเสมอครั้นเมื่อมี iPhone แบบใหม่เหรอ iPad แบบใหม่ออก ซึ่งครั้งนี้ผม Review ช้ากว่ากำหนดเดิมถึง 4 วันเต็มๆ เพราะว่าต้องการที่เปลี่ยนการเขียนแบบใหม่ ด้วยการอยู่กับของในมือให้นานขึ้นกว่าเดิม กับ ต้องการจะแก้ไขการ Review เป็นแบบจัดเต็ม
ครั้งนี้เลยทิ้งเวลายาวนานกว่าเดิมเพื่อที่จะนั่งเทสนั่งแข่งขันเล่นในทุกสถาวะให้นานกว่าเดิม เลยทิ้งช่วงกันไปยาวๆ มาโอกาสนี้ผมพร้อมแล้วครับ ที่จักมาเล่าให้ฟังถึงการใช้งานเต็มๆ iPhone 6 จากผมเอง เบียร์ ครับ
เริ่มทำกันที่ส่วนแรกกล่อง ซึ่งตัวของกล่องเพื่อใส่ตัวเครื่อง iPhone 6 ในครั้งนี้นั้นมาแปลกกว่าของทุกครั้ง เพราะว่าครั้งนี้กล่องไร้ซึ่งสีสันแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งสบายตากว่ามาก ภายในกล่องก็บรรจุอุปกรณ์พื้นฐานที่ทาง Apple ได้ผลิตติดมาให้ได้แก่สาย USB Lighting, ปลั้ก 3 ขา (ในเมืองไทยเป็นแบบ 2 ขาตัวเล็ก) พร้อมด้วยหูฟัง Apple Ear Pod บรรจุอยู่ในกล่อง มาพร้อมคู่มือและวิธีใช้งานเบื้องต้น 3 ภาษา พร้อมสติกเกอร์ Logo ของ Apple 2 แผ่น และ เข็มเพื่อถาดซิม 
class=photo_img
แรกสัมผัสนั้นแปลกมือกว่าแต่ก่อนอยู่พอสมควร ก็เพราะว่าครั้งนี้มันมาพร้อมกับความบางที่บางกว่าเดิมมากบางมากที่สุดถึง 6.9 มิลลิเมตร กับ มีน้ำหนักเพราะรวมที่ 129 กรัม ก็นับว่าจับๆ ตอนแรกก็เอาหลอนมือไปสักพัก เพราะว่าไม่คุ้นกับไม่ชินกับน้ำหนักกับขนาดใหม่ของมัน ทำเอาจะทำตกหลายครั้งก็เพราะว่ามันเบามากจนแทบจะไม่รู้สึกว่ายกมันขึนมาจากกระเป๋ากางเกง
ถ้าให้พูดยิ่งๆ คือความเคยชินจากตอนที่เราหยิบ iPhone 5S ออกมาจากกระเป๋า แล้วลองจับดู ซึ่งมันแปลกจากทุกครั้งใช้เวลาอยู่สักพักกว่าจักชินมือ
class=photo_img
หน้าจอที่้ทำมาใหม่ขนาด 4.7 ซึ่งในตอนแรกที่จับพร้อมกับใช้งานสุทธิ ต้องย้ำเลยว่าถ้าคนที่คุ้นตาพร้อมทั้งชินตา่จาก Apple มาก่อนทุกรุ่นจักมีความรู้สึกว่า หน้าจอมันแค่ยาวขึ้น ไม่ได้ขยายออกข้างๆ ให้มันกว้างขึ้นสักเท่าไรนัก อาจจะผมใช้หลายรุ่นมากก็ได้เลยทำให้รู้สึกว่ามันจอกว้างไม่เท่ากับ Galaxy S5
แต่เพราะรวมมันเป็นแค่ความรู้สึก เพราะถ้าใช้งานใน App แล้วจะเห็นข้อแตกต่างจากรุ่นเดิมที่ชัดเจนมากๆ ว่ามันกว้างขึ้น ด้วยกัน ใช้งานสะดวกสบายตาสุทธิๆครับ
class=photo_img
ปุ่ม Sleep ถูกยักย้ายมาอยู่ด้านข้างขวาของตัวเครื่องแทน อยู่บริเวณด้านบน ซึ่งเป็นที่จับถนัดมือกดถนัดนิ้วมากกว่ารุ่นก่อนมากที่อยู่ข้างบน พร้อมกับจุดที่อยู่ตรงนี้เวลาเราใช้นิ้วชี้มือซ้ายกดเอาถนัดมือและนิ้วมาก
ถ้าคนถนัดมือขวา ก็จะเป็นนิ้วโป้งขวาแทน ก็แล้วแต่ความถนัดครับ ส่วนตรงนี้ผมถนันทั้งสองนิ้วเพราะว่ารวมถือว่าสบายนิ้วดี พร้อมด้วย ถาดเพราะใส่ซิมอยู่ด้านขวาเหมือนเดิมตำแหน่งเดิม เพราะว่าที่เครื่องใช้งานแบบ Nano-Sim ครับ
class=photo_img
ด้านซ้ายมือของเครื่องจักเป็นปุ่มลดพร้อมด้วยเพิ่มเสียง รวมทั้งสวิตซ์เพราะด้วยตั้งค่าสั่นเครื่องอย่างเดียวด้วยว่าการปิดเสียง ซึ่งเพราะว่ารวมหวังที่แจ้งไปตอนแรกว่าเครื่องนั้นมีความบางที่บางมากกว่าเดิมอยู่พอสมควร ทำให้สวิตซ์ต่างๆจากที่เคยทำออกมาแบบกลมๆ เลยทำเป็นแบบยาวแทน
แต่เวลากดนั้นไม่ต้องออกแรงอะไรมากกับถนัดนิ้วกว่าเดิมด้วยตรงที่มันยาวนั้นเองครับ แต่มีปัญหาเล็กน้อยตรงที่สวิตซ์สับสั่นนี้แหละ ที่มันมีขนาดเล็กมากกับดันไปโค้งมนกับตัวเครื่องด้วยทำให้เวลาสับสั่นบางที จะต้องเอาเล็บไปจิกเพื่อสับสันครับ 
class=photo_img
ที่ด้านบนของตัวเครื่องนั้นดูโล่งๆ ไม่มีอะไรเพราะว่าปุ่ม Sleep นั้นถูกเคลื่อนไปด้านขวาของเครื่องแล้วนั้นเองครับ ทำให้ส่วนด้านบนของตัวเครื่องนั้นโล่งไม่มีอะไรเลย 
class=photo_img
ที่ด้านล่างของตัวเครื่องนั้นมีการแยกส่วนต่างๆออกจากกันไม่ได้ทำเหมือนกันแบบพอก่อนแล้ว เพราะว่าที่ลำโพงจักเป็นรูๆ ทั้งหมด 6 ช่อง พร้อมทั้งช่องเหตุด้วยเสียบชาร์ตด้วยสาย usb lighting พร้อมทั้งช่องไมโครโฟนอยู่ติดกับช่องเพราะเสียบหูฟังขนาด 3.5 ครับ 
class=photo_img
ส่วนด้านหลังของตัวเครื่อง iPhone6 Plus นั้นเพื่อหลายๆ คนมองว่าขัดหูขัดตาที่สุดอีก 1 สิ่งก็คือเลนซ์ของกล้องหลังนั้นนู่นออกมาจากตัวเครื่องถึง 0.9 มิลลิเมตร
ถ้าถ้าให้พูดตรงๆ ก็คือถ้าวางเครื่องแบบที่ไม่ใส่เคสลงไปกับพื้นส่วนแรกที่จะโดนพื้นก็คือกล้องครับ แต่ด้วยผมมองๆว่า มันไม่ได้เป็นปัญญาเลยครับ
class=photo_img
มาถึงส่วนที่เรียกได้ว่าขัดใจอีกหนึ่งส่วนที่ผมระบุตรงๆ ว่าผมไม่ได้ชอบตรงการออกแบบฝาหลังเลยครับ จากตอนแรกที่iPhone 5S สีทองนั้นเป็นสีที่เพราะรวมผมชอบที่สุด เพราะมันลงตัวมากไม่ว่าเรื่องของสีพร้อมทั้งชิ้นส่วนต่างๆ
มาถึง iPhone 6 ผมมาดูฝาหลังที่ตัดกับเซ็นเซอร์ต่างๆ แล้วสาธยายตรงๆ ตอนแรกทำใจว่า ถ้าเอาสีขาวมันไม่น่าจักตัดสีกับเส้นของเซ็นเซอร์มาก แต่พอเข้าแน่ๆๆ ไปดูของนัก แทบไม่ได้แตกต่างอะไรจากสีทองเลย ผมเลยตกลงใจเอาสีนี้เพราะว่าใช้เองอยู่แล้ว
เพราะรวมถือว่าจัดเต็มมากเรื่องฝาหลัง เพราะว่าทำออกมาสีไหนก็เอาสีนั้นไปเลยทั้งแผ่นครับ 
class=photo_img
ถามถึงโดยรวมจากการใช้งานครั้งแรกในมือกับตอนแรกที่ใช้ก็รู้สึกแปลกๆ อาจจักเพราะไม่คุ้มมือในร่างที่มันขยายใหญ่ขึ้น (ยิ่ง iPhone6 Plus เดียวรออ่านนะ) แต่พอใช้มาได้สักวันตั้งต้นคุ้นๆ มือแล้วด้วยกันลองเล่น App ต่างๆดูบาง เดียวมาดูช่วงๆถัดจากนั้นครับ มันแตกต่างยังไงกับ iPhone5S บาง ณ ขณะนี้ผมบรรยายได้เท่านี้ครับ
 ข้อมูลเฉพาะ iPhone6 ครับ
ขนาด กว้าง x ยาว x สูง : 138.1 x 67.0 x 6.9 น้ำหนัก 129 กรัม
 หน้าจอแบบ Retina HD ขนาด 4.7 แบบ LED-backlit widescreen Muti-Touch display with IPS technology ความละเอียดที่ 1334 x 750 326 PPI 
 ฃใช้ CPU หลักเป็น Apple A8 ความเร็ว 1.4 Duel Core มาตรฐาน 64 Bit กับ ใช้GPU เป็นแบบ M8 ที่มีความเร็วพร้อมกับการประมวลผลที่เร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 2 เท่า
 
ตัวกล้องมีความละเอียดที่ 8MP ใช้ระบบการจัดภาพ iSight camera with 1.5µ pixels มี Auto Focus ใช้ Hybrid IR filter มาพร้อม Backside illumination sensor ตัวเลนซ์กล้องมี Sapphire crystal lens cover ป้องกันการเป็นลอยจากการขีดขูด พร้อมทูโทรนแฟลต
 บันทึก VDO ความละเอียด 1080P พร้อมทูโทรนแฟลต กับใช้ฟังชั่น Slo-mo แบบใหม่ที่ 120FPS และ 240 FPS มีฟังชั่น Time lapse กับใช้งานการซูม VDO ได้ 3 เท่า
 
 กล้องหน้า 1.2MP ที่ความระเอียดสูงสุด 1280x960 บันทึก VDO กล้องหน้าความละเอียด 720P มี Auto HDR ในการปรับแสง พร้อมด้วย รับแสงทั้งหมดประมวลผลด้วย GPU M8 พร้อม Facetime HD 
 
 ข้อมูลเพราะรวมของตัวเครื่องทั้งหมดภายนอก
ข้อมูลการใช้งานกับใช้งานแบตในเครื่องทั้งหมด
 
 ข้อมูล Sensor ทั้งหมดในเครื่องที่ iPhone6 เก่งทำได้
 
สารบาญ App ทั้งหมดที่มากับเครื่องในตอนแรกตั้งแต่แกะกล่อง(iOS 8)
บท Review เข้าสู้หน้าจอเครื่องครั้งแรก

class=photo_img
ตราบทำการ Activion แล้ว iPhone6 จะสอบถามการตั้งค่าหน้าจอครั้งแรก ซึ่งไม่เหมือนรุ่นเก่าๆก่อนหน้า
จะมีให้ตั้งค่าหน้าจอแบบ Standard พร้อมทั้ง Zoom ซึ่งใครคุ้นเคยกับแบบเดิมๆของ iPhone รุ่นก่อนๆก็เเล่าลือกแบบ Zoom ครับแต่ผมมาจุดๆ นี้แล้วมุ่งหมายลองของใหม่เลยจัดแบบ Standard ไปเลย ซึ่งแบบ Standard จักมีการหดของ icon ลงไป และ แบบ Zoom จักมี icon ที่ขยายใหญ่ขึ้นจนเกือบเต็มเนื้อที่เหระบือของหน้าจอ
แน่นอนว่าเลือกระฉ่อนกแบบไหนจะมีพรีวิวให้เราได้ดูก่อน ซึ่งความแตกต่างจะต่างกันก็ตรงนี้แหละครับ ถ้าใครเเล่าลือกแบบ Standard มันจักเป็นจอที่โดนย่อลงไปให้เล็กลง แต่หากเลือกระฉ่อนก Zoom ทุกอย่างในจอจะดูใหญ่ขึ้นและอ่านสบายตา อยู่ที่สายตาของแต่ละคน
 กับหากมองดูดีๆ ทั้งแบบ Standard ด้วยกัน Zoom จะแตกต่างกันแค่เรื่องของขนาด icon ด้วยกัน ตัวขนาดของตัวหนังสื่อด้วยกันอักษรในหน้าจอ ซึ่งทั้งหมดเรารอบรู้ไปปรับด้วยกันขยายได้ใน Setting ครับ
เข้าหน้าจอครั้งแรกแบบเต็มๆ ตา เต็มๆ ใจทั้งสองแบบ แบบ Standard รูปซ้าย พร้อมกับ Zoom รูปขวา ทั้งหมดอยู่ที่ความชอบของแต่ละคนครับว่าชอบแบบไหน ส่วนตัวผมมองแบบ Standard ผมชอบมากกว่าเพราะว่าว่ามันกว้างด้วยกันแสดงเนื่้อหาในส่วนของ Email พร้อมทั้งส่วนอื่นๆของตัวอักษรเก่งแสดงได้บานตะไทมากกว่าในหนึ่งหน้า พร้อมทั้ง ดูสวยกว่าครับ(ความรู้สึกส่วนตัว)
บทใช้งานแน่นอนกับ App ต่างๆบน iPhone6
อันดับแรกผมเทสจาก App ที่เป็นพวก Social ด้วยกันพวกที่จะต้องใช้การพิมพ์หลักๆเป็นต้นพวก Wechat, Line, Whatsapp เป็นต้น แน่นอนว่า Line ยังคงมีปัญหาหรือไม่ก็บัคของคีย์บอร์ทอยู่การใช้งานไม่มีปัญหานะครับ ยังคงพิมได้ดีปกติ
ถ้าความรู้สึกการพิมต่างๆ ผมแสดงว่าถ้าเเลื่องลือกแบบ Standard มัมพิมไม่แตกต่างจากขนาดเดิมเหรอ Zoom เท่าไรเลยครับ เพราะหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นมาตรฐานความกว้างของปุ่ม กับการพิมไม่ได้แตกต่างใช่ไหมลดลงไป ผมกลับพิมเร็วขึ้นกว่าเดิมได้ง่ายเสียด้วยซ้ำครับ
พร้อมทั้งนี้ก็เป็นตัวอย่างของบัคที่ผมทูลบาง App ของพวกที่เราใช้แชท ซึ่งผมเจอกับ LINE ใน iOS8 ครับ
ที่นี้เรามาลองเล่นเกมที่กิน GPU ด้วยกัน CPU ในเครื่องกันหนักๆบางเพื่อวัดใจประสิทธิภาพของการทำงานทั้งหมดของระบบ ผมเลยหยิบ Modern Combat 5 ภาคล่าสุดออกมาทำการชิงชัย
ซึ่งทั้งหมดก็ตามที่แสดงออกตามภาพครับ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากการแสดงผลของ iPhone5S ที่ใช้ GPU M7 มากนัก ยกเว้นพวกแสงสีกับประกายต่างๆในเกม ยังคงมีบางส่วนที่มีบัคเช่นม่านบังตาต่างๆที่ยังไม่รอบรับการทำงานของ GPU M8 ของ iPhone6 อาจจะทำให้ฝาผนังเบลอ พร้อมกับมองไม่เห็นในบางจุดครับ ส่วนการเล่นนั้นลื่นไหล สบายตาพร้อมกับสบายนิ้วมากครับ สนุกมากจริงๆ จอใหญ่ขึ้นด้วย
คราวนี้มาลองเกมที่ใช้งาน CPU และ GPU ไม่มากหลายดูบางว่าการเล่นนั้นจะเป้นยังไง ผมเลยเลือกเอา Cookie Run เกมที่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนในการประมวลผล ใช่ไหม แสดงผลของเกม ก็เพราะว่าแค่กดกระโดดพร้อมด้วยหมอบเท่านั้นแหละ จากการประลอง ก็ไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างกับ iPhone5S เลยทั้งภาพและเสียงทั้งหมดแสดงผลได้เหมือนกัน ต่างกันตรงที่ iPhone6 นั้นจอใหญ่กว่าการมองก็ย่อมสบายตากว่า กับ การบังคับ กับการกดต่างๆก็ต้องง่ายกว่าเช่นกันครับ ดังนั้นไม่มีอะไรแปลกไปจากจุดเดิม
เรื่องของกล้อง iPhone6
อย่างที่บรรยายกล้อง iPhone6 นั้นทำเป็นที่จะถ่ายอะไรได้คมชัดมากกว่า iPhone5S มากกว่าเดิมพอสมควร นั้นหมายถึงเราอาจที่จัด Fucus ได้ใหม่พร้อมกับยังคงเก้บรายละเอียดส่วนต่างๆของภาพได้คมชัด ทั้งแสง และ เงา ตามที่แสงบริเวณตรงที่เราถ่ายภาพเราอยู่ตรงที่ครัน มีการปรับแสงพร้อมทั้งรับแสงได้ดีกว่าเดิมที่น่าสนใจครับ
แต่ก็ยังคงมีปัญหาเรื่องของการจับ Macro ระยะใกล้ๆของตัวเลนซ์กับตัววัตถุที่เราต้องการจักถ่ายมันก็ยังคงจับระยะใกล้ๆ ไม่ได้ เพราะจับใกล้มันก็จับไม่ติด ตามภาพที่ผมเอามาลง ถ้าไปเทียบกับ S5 พร้อมด้วย LG G3 หรือไม่ก็ ตัวโหดอย่าง Z3 ผมประภาษตรงๆเลยว่า ตายครับ อันนี้ไม่ได้ประเมิณว่ามันต่ำนะครับ แต่จักสรุปให้ฟังตอนท้ายๆ
 
ทีนี้มาลองตอนกลางคืนดูครับ ภาพที่ได้จากการเปิด Mode HDR ไม่เปิด Flash โดยรวมถือว่ายังดูดีกว่า iPhone5S อยู่ในระดับหนึ่งไม่ว่าจะเป็นการจับภาพและการรับแสงต่างๆ
พอกลาง คืนเหมือนกันที่เดิม ก็ทำการเปิด Flash เพื่อทำการชิงชัย Mode การเปิด Flash ก็พบว่าภาพมีความสว่างที่ดูดีกว่า iPhone5S อยู่ในระดับที่พอใจครับ ไม่ได้สว่างเจิดจรัทเกินไปครับ
พอ มาลองในที่ๆไม่มีแสดงไฟ อาศัยการเปิดแฟชรอย่างเดียว ก็อย่างที่ปริปากครับFalshนั้นถูกทำออกมาดูดีกว่ารุ่น iPhone5S มากครับ ไม่สว่างเกินไป กับการผสมสีของFalshแบบคู่นั้นทำออกมาได้ดูดีกว่ารุ่นก่อนมากครับทำให้ออกมา ดูดีตามแบบในภาพ (อาจจักมืดไปนิดนะครับ)
ถัดจากนั้นก็ VDO ครับ
รองลงไปนี้คือไฟล์ VDO 2 อัน อันแรกเป็นไฟล์แบบ 1080P เต็มที่ถ่ายจากกล้อง iPhone6 โดยไม่ลอด App อะไร
http://www.youtube.com/watch?v=Te20uX6PkjQ (เเอิกเกริกก 1080P ด้วยนะครับ)
จากนั้นคือไฟล์ VDO อันที่ 2 ครับถ่ายนอกสถานที่ด้วยกล้อง iPhone6 ครับเพราะว่าไม่ทะลุทะลวง App อะไร (เป็น Mode Slo-mo)
http://www.youtube.com/watch?v=UdJKAx02hE4 (เโจษจันก 720P ด้วยนะครับ)
ส่วนในตรงส่วนนี้ผมอธิบายจากการใช้งานนะครับ คลิปแรก ผมเล่นเกมบนห้างที่เมเจอร์รัชโยธินช่วงเวลา 18.00 น. ซึ่งสถานที่นั้นมืดกับไม่มีไฟส่องสว่างเท่าไร แต่การจัดภาพนั้นทำได้ดีปกติ ด้วยกันลื่นไหลมาก รวมทั้งความคมชัด กับ การจับภาพในส่วนต่างๆภายในหน้าจอ ทำออกมาได้รายละเอียดครบ และดูรู้เรื่องจนดูสบายตาไปเลย ส่วนไฟล์ที่สอง ผมออกมาถ่ายบนทางด่วนช่วงเวลา 14.00 น. แดดมีฝนไม่ตก ถ่ายออกมาด้วย Mode Slo-Mo ทำออกมาได้ดีมากจับรายละเอียดทั้งหมดบนถนนได้ครบถ้วนเพราะสังเกตุจากล้อแม็กซ์ และ รายละเอียดภาพบนถนน ด้วยการกดหยุด VDO ดูสิ่งที่กล้องจับติด
ภาพประกอบข่าว
สรุปเลยแล้วกัน
คือ ....... เพราะรวมคะแนนเต็ม 10 ผมให้เพราะว่า iPhone6 ทั้งหมด 8.9 คะแนนครับสาเหตุหลักๆ ที่ผมให้เพียงเท่านี้นั้นถ้าไม่ติดบัค iOS8 ที่มีผลต่อ App บางตัวเหรอปัญหาการใช้งานอย่างก็เอาไป 9 คะแนนได้ครับ แต่อย่างที่ชี้แจงว่ามันยังคงมีปัญหาต่างๆ เช่นแถบ NC นั้นค้างเวลามีการแจ้งเตือนเราไม่เชี่ยวชาญที่จักลากมันลงมาได้เพื่อดูรายละเอียดในกรณีที่เราดูไม่ทัน 
เหรอบัคจากคีย์บอร์ทที่เวลาเราสลับจอหรือไม่เอียงจอคีย์บอร์ทนั้นจักหายไป ซึ่งทั้งหมดตรงนี้เป็นปัญหามาจากที่ iOS8 ไม่ใช่ตัวเครื่อง ถ้าหากถามผมเรื่องหลักๆ เช่น
  • วัสดุ : ผมพอใจมากกับวัสดุที่ใช้การประกอบ พร้อมกับ หน้าจอที่มีความใหญ่ขึ้น และ การแสดงผลที่ชัดเจน ตรงส่วนตรงนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจมาก พร้อมกับ พอใจมากกับการใช้งานนักๆ ถ้าแม้ไม่มีปัญหาทั้งหมดจากบัคของ iOS8 ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่เพอร์เฟคมากนะครับ ลองคิดดูเราหวังว่าจักได้ใช้ iPhone จอใหญ่มาตลอด มาถึงคราวนี้ฝันที่เป็นแน่แท้มาถึงแล้วครับ แม้ว่าจักมีข่าวต่างๆที่ออกมาพูดกันว่า เครื่องนั้นบอบบางมาก เช่นจับมาหักมางอ มันก็พังแล้ว ถามเป็นแน่แท้ๆ เครื่องมันอยู่ดีๆคุณไม่ได้ทำตก ใช่ไหมไปดัดมัน มันจักพังมั้ยละครับ
  • กล้อง : เรื่องกล้องผมค่อนข้างจักซีเรียสพอสมควรเพราะผมไม่ชอบที่จะต้องพกอะไรหลายๆ อย่างออกจากบ้านพร้อมทั้งยัดใส่กระเป๋า ดังนั้นสมมตผมขับมอไซค์ แว๊นซ์ไปเทียวไหนแน่นอน ขอแค่มีกล้องดีๆใช้งานก็พอแล้ว กล้อง iPhone6 เพราะผมทำออกมาได้ดีมากครับ จนระดับที่พอใจ กับ คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป ทั้งถ่ายภาพปกติและถ่ายVDO ครับ
  • แบตเตอรี่: ถามว่าแบตเตอรี่ 1840mAh เนี้ยนะพอใช้งานเกี่ยวกับการทำงานในหนึ่งวันมั้ย กราบเรียนตามตรง ในตอนที่ผมใช้ iPhone5S แค่ยังไม่ทันจะเปลี่ยนไปครึ่งวันแบตหมดจาก 100% เหโจษแค่ 20% เศษๆ อันนี้จากการเปิด 3G ใช้งานทั้งวันนะครับ พอมาใช้เจ้า iPhone6 มา 4-5 วันจากการใช้งานทะลวง 3G ทั้งวันแสดงตรงๆอึดกว่า 5S อยู่ในระดับที่พอสมควร พร้อมกับรับได้ นั้นคือใช้งานตั้งแต่เช้า 09.00 - 14.00 น. ก็ใช้งานมาตลอดฟังเพลงบาง เล่นเกมบาง กับ เล่นFacebook บาง แบตเตอรี่ มันก็ยังเหโจษจัน 35-40% ของในวันนั้นๆ ถามว่าส่วนตัวผมพอดีมั้ย ผมบ่งเลยพอดีมากครับ ปลื้มมากกับแบตเตอรี่ใหม่แม้ว่าจะเพิ่มมาแค่นิดเดียวก็เถอะนะ
ยังมีอีกปัญหาที่ผมลืมเล่าไปสนิทเลย นั้นก็คือเครื่องนั้นสมมติว่ามีการใช้งาน GPU หนักๆ ของ APP โหดๆ ทั้งหลายไม่ว่าจักเป็นเกม Full 3D ไม่ใช่หรืออะไรก็ต่างที่มีการประมวลผลหนักๆ เครื่องนั้นจะร้อนโดยจับได้แล้วรู้สึก ทันทีครับ ยิ่งแม้เปิด 3G แทนการใช้งาน WIFI พร้อมทั้งเล่นเกมพวก 3D หนักๆ ยิ่งไม่ต้องห่วงครับ ร้อนชนิดที่ว่าจับแล้วรู้เลยว่ามันร้อนครับ
ทั้งหมดเป็นพ่างการวิจารณ์ พร้อมด้วย ทดลองใช้งานจากผมจริงๆๆนะครับ ไม่ได้หมายความว่าคุณจักต้องเชื่อทั้งหมดที่ผมพิมา แค่แต่ว่าคุณมีโอกาศได้ลองเล่นแล้ว ลองเปรียบเทียบความรู้สึกดู มันเป็นอะไรที่จะทำนูลว่าแปลกใหม่ก็ได้เกี่ยวกับ Apple เพราะว่าหน้าจอใหญ่ครั้งแรก ความรู้สึกมันไม่เหมือนเล่น Android หน้าจอ 4.7 นะ มันคนละฟิวเลยประภาษตรงๆว่าประทับใจมากครับ ใครมีคำถามตรงไหนคอมเม้นสอบถามได้ครับ เดียวมาตอบให้ครับ
ที่มา: http://thaizones-hitech.blogspot.com/2014/10/full-review-iphone6.html

ติดตามอ่านข่าวสารไอทีอื่นๆ ได้ที่ >> thaizones-hitech.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น