5 โปรแกรม Cleaner ทำความสะอาดระบบยอดฮิตปี 2014

เหตุด้วยคนที่รู้สึกว่า ช่วงหลังมานี้ยิ่งใช้งานคอมพิวเตอร์ เครื่องก็ตั้งต้นช้าลง ของบางคน นอกจากเปิดเครื่องช้าจนชงกาแฟเสร็จแล้วยังขึ้นไม่เข้าวินโดวส์ ยังทำงานช้า เปิดไฟล์ช้ากับสุดท้ายปิดเครื่องก็ยังช้าอีก แบบนี้คงปวดหัวอยู่ไม่น้อย

ส่วนหนึ่งนั่นก็ก็เพราะว่าเราใช้งานแบบไม่ได้ดูแลมากนัก บางทีเปิดเครื่องตั้งแต่เช้า ใช้ไปเรื่อยจนมืดค่ำหรือไม่บางครั้งไม่เคยปิดเลย ทั้งติดตั้งโปรแกรม เปิดไฟล์กับใช้งานอีกสารพัด แบบนี้ไม่ช้าลงก็แปลก เพราะว่าโปรแกรมมากมาย หน้าต่างเปิดเว็บไซต์ก็ค้างอยู่ ไฟล์ไม่เคยจัดเก็บเป็นระเบียบ แบบนี้ไม่ช้าอย่างไรไหว แต่ไม่เป็น ถ้ายังรู้ตัวทัน ก็พอแก้ไขได้ ด้วยโปรแกรมฝ่ายที่เรียกว่า Cleaner นี้

ซึ่งในปี 2014 ต้องถือว่าเป็นอีกยุคหนึ่งของโปรแกรมที่ใช้จัดการไฟล์พร้อมด้วยดูแลระบบเหล่านี้ ลองดูกันว่ามีโปรแกรมอะไรบ้าง

Cleaner เป็นโปรแกรมในแนวที่ได้รับความนิยมเพราะผู้ใช้โน๊ตบุ๊คไม่ใช่หรือพีซีก็ตาม ด้วยการทำความสะอาดระบบพร้อมกับจัดการไฟล์ไม่พึงประสงค์ เช่น Temp files, Cookie, File setup พร้อมทั้งบรรดาไฟล์ระบบ Registry รวมถึงช่วยในการ Defragment ให้อีกด้วย เพื่อให้ระบบมีความคล่องตัวในการทำงาน

1.CCleaner : เป็นโปรแกรมยอดนิยมที่เรียกว่าชอบติดอันดับเสมอมา ด้วยคุณสมบัติเด่นในการ จัดการไฟล์ เคลียร์พื้นที่ ฟังก์ชันที่ครอบคลุมการทำงาน ทั้งในส่วนของ Clear temp ไม่ใช่หรือ Clean พร้อมด้วย Uninstall รวมไปถึงจัดการหน้าตาในการใช้งานที่เป็นมิตร ใช้งานง่ายด้วยกันมีประสิทธิภาพ

2.Wise Care 356 : โปรแกรมในการ Optimize ระบบ ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นในการ Cleaner ที่ดูแลทำความสะอาดในส่วนต่างๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจักเป็น History, File Recent ไม่ใช่หรือไฟล์ที่ต้องการลบแบบถาวร แม้ลูกเล่นจะไม่ได้หวือหวามากนัก แต่ที่น่าสนใจคือ ให้การทำงานที่ครอบคลุมในการดูแลระบบ

3.Advanced SystemCare : ใครที่ต้องการโปรแกรมเพราะ การดูแล ตรวจเช็คพร้อมกับป้องกัน กับบรรดาเครื่องมือมากมายสารพัด ให้ใช้งานได้แบบเต็มสูบ กรณีที่ไม่ค่อยมีเวลาจัดการในระบบ โปรแกรมนี้ เป็นทางเร่ำลือกที่น่าสนใจ เพราะว่าอย่างปลายปีอย่างนี้ ทำทีเดียวจบในตัว ไม่ต้องไปมองหาโปรแกรมเสริมอื่นๆ มาติดตั้งให้วุ่นวาย

4.Slim Cleaner : โปรแกรมเกี่ยวกับการ Clean up ที่มีฟังก์ชันน่าใช้ ให้ความพร้อมในการจัดการไฟล์ระบบ, ซอฟต์แวร์, เบราว์เซอร์, History พร้อมเครื่องมือในการปรับแต่งที่มีมาให้ใช้งานกันแบบเต็มที่ ไม่มีกั๊ก

5.Glary Utilities : โปรแกรมตรวจสอบสุขภาพระบบแบบหัวจรดเท้า ก็เพราะว่ามีให้เเลื่องกใช้ตั้งแต่ ทำความสะอาด, ปรับแต่ง แก้ไขพร้อมด้วย Optimize ระบบ พร้อมกับฟังก์ชันในการจัดการรีจิสทรีด้วยกันลูกเล่นในการซ่อมแซมไฟล์ระบบพร้อมด้วยการ ตั้งค่าความปลอดภัย พร้อมลูกเล่นอีกมากมาย ที่อัดแน่นมาให้ ครบทุกเรื่องในการดูแล

ที่มา: http://hitech.sanook.com/1393605

ซัมซุงเมืองไทยเปิดฉาก Samsung Galaxy A5 โลหะทั้งเครื่องอย่างเป็นทางการ

ในที่สุดซัมซุงไทยก็ไม่ ปล่อยให้เราๆ ต้องรอ Samsung  Galaxy A5 กันนานเพราะล่าสุดเมื่อค่ำคืนที่ลอดมานั้น Samsung  Galaxy A5 ได้เดินทางมาโหมโรงในเมืองไทยอย่างเป็นทางการแล้ว

Samsung  Galaxy A5 เป็นหนึ่งใน 3 ของสมาร์ทโฟนในตระกูล Samsung Galaxy A Series ซึ่งประกอบไปด้วย  Galaxy A3, Galaxy A5 พร้อมด้วย Galaxy A7

เหตุด้วยบ้านเรานำ Galaxy A5 เข้ามาจำหน่ายก่อนเป็นรุ่นแรก พร้อมกับมีแผนจะนำ Galaxy A7 เข้ามาวางจำหน่ายในอนาคต ส่วน Galaxy A3 นั้นหลังจากได้สอบถามผู้บริหารของ ซัมซุง ไทยแล้วได้คำตอบว่าจะไม่นำเข้ามาจำหน่ายครับ!!

สเปคเบื้องต้นของ Samsung Galaxy A5

- หน้าจอขนาด 5 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล
- หน่วยประมวลผลแบบ Quad-Core Processor ความเร็ว 1.2 GHz
- RAM 2 GB
- หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 64 GB
- กล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- กล้องด้านหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash
- รองรับ 4G LTE
- รัน Android 4.4 KitKat
- แบตเตอรี่ขนาด 2300 mAh

สำหรับ Galaxy A5 ทางซัมชุงเค้าเน้นจุดเด่นที่ตัวเครื่องเป็นโลหะทั้งหมด ฝาหลังเป็นแบบ Unibody พูดง่ายๆ นั้นคือเป็นการประกอบทั้งเครื่องเป็นชิ้นเดียวกันหมด ส่วนของน้ำหนักเบา พร้อมกับตัวเครื่องที่เรียกได้ว่าบางแค่ 6.7 มม. พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เน้นถ่ายภาพ Selfie เพราะเฉพาะ

ต่อมาเป็นเรื่องของกล้องที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Samsung  Galaxy A5 ก็เพราะว่ากล้องหน้ามีความละเอียดสูงถึง 5 ล้านพิกเซล ถูกใจคนรักการ selfie แน่นนอน

ส่วนกล้องหลังมีความละเอียดอยู่ที่  13 ล้านพิกเซลครับ อย่างที่กราบทูลไว้ตอนต้นว่ากล้องเป็นอีกจุดเด่นของรุ่นนี้ นั้นหมายความว่าฟีเจอร์เด่นๆ ในเรื่องการถ่ายภาพนั้นย่อมถูกอัดมาครบแน่นอน

ไม่ว่าจักเป็นฟังก์ชั่น Palm selfie ยกมือแทนการกดชัตเตอร์ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกขณะถ่ายภาพ

ฟังก์ชั่น Beautifying Effect แต่งภาพสวยเกี่ยวกับสาวๆ เป็นการปรับหน้าเนียนพร้อมกัน 3 คน เนียน + ผอม ใคร่ได้หน้าเรียว ตาโต แค่ไหนก็ทำได้ทำได้ในขั้นตอนเดียว!!

กับอีกหนึ่งจุดเด่นนั้นคือฟังก์ชั่น Rear Cam Selfie ฟังก์ชั่นกำหนดจุดเพราะด้วยถ่ายกล้องหลัง ทำให้มั่นใจได้ว่าคราวหน้าสมมตใช้กล้องหลังถ่ายภาพ ยังไงภาพที่ออกมาก็จักไม่ตกเฟรม หัวขาด ปากเบี้ยวแน่นอนครับ

นอกจากนี้นั้นฟังก์ชั่นเก่าๆ ที่เรารู้จักกันดีอย่าง Voice Selfie กับ Wide Selfie เหล่าีใน Samsung Galaxy Note 4 ก็มีใน Galaxy A5 เช่นกัน

อ่อ...อีกเรื่องที่ยังไม่ได้พูดถึงนั้นคือ New interface & Ringtone ในส่วนของธีมมือถือที่ถูกปรับให้มีความแปลกใหม่ ขจัดปัญหาความน่าเบื่อ ช้ำซากออกไป เบื้องต้น New interface & Ringtone นั้นมีธีมให้เระบือกใช้งานทั้งหมด 5 แบบด้วยกันจักเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

ไหนๆ ก็ได้ทดลองจับเป็นคนแรกๆ ของเมืองไทยแล้วก็ขอพรีวิว Samsung Galaxy A5 กันนิดหน่อยละกันครับ

ด้านหน้าของ Samsung Galaxy A5 มองยังไงก็เหมือนฝาแฝด Samsung Galaxy Alpha ครับ

ด้านหลังของ Galaxy A5 นั้นอย่างที่เคยเตือนไว้ข้างต้นว่าถูกออกแบบมาแบบ Unibody กับเป็นโลหะทั้งหมด

แม้จะเป็นแบบ Unibody แต่ก็มีช่องของซิมการ์ด และช่องเพิ่มหน่วยความจำอยู่ด้านข้าง

ตัวเครื่องด้านซ้ายไม่มีอะไรมาก มีปุ่มในการปรับเสียง ขึ้น-ลง เท่านั้นครับ

ด้านบนของตัวเครื่อง

ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบด้วย ไมโครโฟนตัวหลักเกี่ยวกับสนทนา ช่องหูฟังขนาดมาตรฐาน พร้อมกับพอร์ต microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือว่าเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์

ประกบคู่กับ iPhone 6Plus หน่อยเป็นไงบางกว่าเห็นๆ

ด้านบนของหน้าจอแสดงผล ประกอบด้วย ลำโพงด้วยสนทนา, เซ็นเซอร์ต่างๆ และกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง

กล้องด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ LED พร้อมกับลำโพงเสียง

ทั้งหมดนี้เป็นแทบการพรีวิวแบบง่ายๆ จากการได้ลองเล่นไม่เกิน 30 นาที ถ้าหากอยากงานฉบับแบบจัดเต็ม รออีกสักพัก สมมตได้เครื่องมาทดลองเล่นอีกครั้งทางคณะงาน Sanook! Hitec สัญญาว่าคราวหน้าจัดเต็มแน่นอนครับ เบื้องต้นคณะงานขอเคาะคะแนนความพอใจของ Samsung  Galaxy A5 ที่ 8.5 คะแนนครับ

เรียกได้ว่า มาความหรูหรา กับแข็งแกร่งในหนึ่งเดียว เพราะว่าสนนราคานั้นทางผู้เขียนได้สอบถามแล้วทางผู้บริหารทางซัมชุงแจ้งพางว่า จักอยู่ที่กะ 1 หมื่นกลางๆ ต่างว่าให้ผู้เขียนเดาดูก็น่าจักประมาณ 14,xxx บาท 

ส่วนวันวางจำหน่ายนั้นจะเปิดให้เป็นเจ้าของกันในเดือน มกราคม (ต้นปีหน้านั้นเอง) ส่วนของสีนั้นในเมืองไทยมีจำหน่ายทั้งหมด 3 สีได้แก่ สีดำ (Midnight Black), สีขาว (Pearl White) พร้อมด้วยสีทองแชมเปญ (Champagne Gold) เพื่อช่วงแรกๆ นั้นจักมีเช่นแค่สีดำ (Midnight Black) ด้วยกัน สีขาว (Pearl White) เท่านั้นส่วนสีทองแชมเปญจักเข้ามาทีหลังครับ

ที่มา: http://hitech.sanook.com/1393401

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> www.hitech.sanook.com

เเลื่องลือกดาวน์โหลดไฟล์ให้ปลอดภัย ถูกใจ ไม่โดนหลอก

การดาวน์โหลดไฟล์เป็นเรื่องปกติที่คนใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปใช้ กัน โดยเฉพาะคนที่ชอบลองอะไรใหม่ๆ ก็มักจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยการมาของซอฟต์แวร์ใหม่ๆ กันเป็นประจำโดยที่บางทีไม่รู้ว่าไฟล์ที่ได้มานั้นใช้งานได้หรือไม่ ไฟล์เต็มไม่ก็เปล่า รวมถึงมีอะไรแปลกปลอมติดมากับไฟล์ รวมถึงการติดตั้งกับความเหมาะสมในการใช้งาน

ซึ่งบางกรณีอาจเกิดขึ้นจากการติดตั้งไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาแล้ว เช่น โฆษณา ซอฟต์แวร์แฝง มัลแวร์ด้วยกันอื่นๆ ดังนั้นเราจึงต้องหาช่องทางที่เหมาะสมและปลอดภัย สมมุติสนใจด้วยกันชื่นชอบในการดาวน์โหลดไฟล์มาใช้งานบ่อยๆ

ใช้สัญชาตญาณในการสังเกต : ถ้าจักรักการดาวน์โหลดบ่อยๆ นั้น การหมั่นสังเกตพร้อมทั้งใช้สัญชาตญาณเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่มีใครมาคอยชี้แจงได้ว่าเว็บใด ปลอดภัยหรือว่าอันตรายได้ทั้งหมด ผู้ใช้เองต้องเป็นคนที่ดูรายละเอียดพร้อมทั้งจดจำว่าเว็บใดเป็นเช่นไรใช่ไหมบางครั้ง

การที่เว็บลิงก์ให้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ฟรีๆ ทั้งที่มีสนนราคาวางจำหน่ายในราคาที่แพง รวมถึงการให้โหลด Crack, Serial หรือ Activate บางสิ่งอย่างที่ดูไม่ถูกต้องนัก ก็อาจจักนำพาเราไปยังจุดเสี่ยงได้ ตรงนี้ผู้ที่ดาวน์โหลดต้องสังเกตให้ดี

เพราะบางทีพลาดคลิกไม่ใช่หรือดาวน์โหลดมาแล้ว อาจส่งผลเสียต่อเครื่องได้เช่นกัน หรือไม่ก็บางครั้งต้องใส่ข้อมูลสำคัญส่วนตัวใช่ไหมคลิกลิงก์หลายครั้งจนเกินไป ก็เป็นสิ่งที่น่าสังเกตได้เช่นกัน

เโจษจันกดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ที่ได้รับความนิยมเหรอติดอันดับความน่าเชื่อถือ : การเเล่าลือกดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บลิงก์ที่มีการจัดอันดับหรือติดอันดับในการดาวน์โหลดจากโหวตต่างๆ ก็จัดว่าน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง

ไฟล์เหล่านี้ค่อนข้างวางใจได้ว่าเป็นโปรแกรมที่ดีด้วยกันได้รับการทดลองใช้งานจากบรรดาผู้ใช้โดยทั่วไปมาพอสมควร การดาวน์โหลดมาใช้น่าจะให้ความสบายใจ มากกว่าที่จักเเลื่องกดาวน์โหลดไฟล์หรือว่าโปรแกรมที่ไม่ค่อยมี Feedback มากนัก แต่ข้อเสียคือ แม้เป็นคนที่ชอบทดลองของใหม่อาจจะต้องทำใจนิดนึง

รู้จักกับซอฟต์แวร์กลุ่มต่างๆ Freeware, Trialware ด้วยกันอื่นๆ : ก่อนที่เราจักดาวน์โหลดโปรแกรมใดมาใช้ก็ตาม ก็ควรจักต้องทำความรู้จักก่อนว่าเป็นโปรแกรมแบบใด ก็เพราะว่าในปัจจุบันมีโปรแกรมทั้งแบบ Freeware, Trial, Demo, Commercial ด้วยกันอื่นๆ

ก็เพราะว่าบางครั้งเสียเวลากับการดาวน์โหลดมาใช้พร้อมด้วยคาดหวังว่าจะได้ใช้งานนานๆ กลายเป็นว่าแค่เดโม ทดลองใช้ เปิดใช้งานได้บางฟีเจอร์ ใช่ไหมมีเวลาจำกัด บ้างก็มีลายน้ำหรือโฆษณาติดมาด้วย ใช้งานได้ไม่เต็มที่ ไม่คุ้มกับการดาวน์โหลดพร้อมทั้งติดตั้งไว้ใช้งาน ดังนั้นก็ควรจักตรวจสอบให้ดีก่อนว่าเป็นโปรแกรมแบบใด

Free Download ไม่ได้หมายความว่าเป็น Free Software : เป็นเรื่องยิ่งที่หลายคนอาจจักหลงไปกับการติดป้ายให้ดาวน์โหลดของเว็บไซต์ การที่ระบุว่า Free Download ดูเป็นสิ่งจูงใจ ที่ทำให้รู้สึกว่าต้องฟรี ใช้งานฟรี แต่แท้เป็นแน่แท้แล้ว ไม่ได้หมายความเช่นนั้น แต่การที่ฟรีดาวน์โหลด จักเป็นโปรแกรมแบบใดก็ได้ ทั้งแชร์แวร์ ฟรีแวร์ไม่ใช่หรือเดโม ก็มีโอกาสทั้งหมด ผู้ใช้เองคงต้องตรวจเช็ครายละเอียดให้ดีก่อนว่า โปรแกรมเหล่านั้นมี Description อย่างไร ในรายละเอียด จักได้ไม่ต้องเสียเวลาดาวน์โหลดมาใช้ แล้วกลายเป็นว่าไม่ได้เป็นโปรแกรมฟรี

มั่นใจว่าปุ่มที่ดาวน์โหลดนั้น เป็นปุ่มแน่ๆเหรอแค่ปุ่มจาก Advertisements : ควรจักดูให้มั่นใจก่อนว่าปุ่มที่คุณกำลังจักคลิกดาวน์โหลดนั้น เป็นปุ่มที่ใช้ในการลิงก์ไปยังไฟล์ที่ต้องการแน่นอนหรือไม่ก็ไม่ ก็เพราะว่าปัจจุบันการทำโฆษณาหลายส่วนเพื่อชักชวนให้คลิกลิงก์ในหลายเว็บไซต์ ถูกวางไว้อย่างแนบเนียน

การคลิกลิงก์ผิดเข้าไปอ่านโฆษณาก็ไม่ได้เสียหาย เพียงแต่อาจจักทำให้เราเสียเวลาในการคลิกไปเหรอบางครั้งถูกหลอกให้รอพร้อมด้วยคลิ กลิงก์ต่อๆ ไปอีก ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีต่อเราแต่อย่างใด ฉะนั้นสมมุติเป็นปุ่มดาวน์โหลดลองมองให้ดีเสียก่อนว่าใช่หรือไม่

ติดตั้งโปรแกรมลอดซอฟต์แวร์ของเว็บดาวน์โหลด : ในบางเว็บไซต์ไม่ได้ให้คลิกเพื่อดาวน์โหลดเพราะว่าตรง แต่จะให้ติดตั้งโปรแกรมช่วยดาวน์โหลดของเว็บนั้นๆ ก่อน จากนั้นจึงจักศักยดาวน์โหลดไฟล์อื่นๆ ในเว็บไซต์ได้

โปรแกรมช่วยเหล่านั้นอาจไม่ได้มีผลอย่างไรต่อการดาวน์โหลด เพราะเป็นโปรแกรมตัวเล็กๆ ที่คอยเป็นประตูเชื่อม แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาว่าจักมีสิ่งใดแฝงอยู่ด้วยเหรอเปล่าไม่ใช่หรือบางครั้งจะ เอาไว้คอยส่งโฆษณาให้เท่านั้น ซึ่งแม้ไม่พอใจก็อาจลบทิ้งได้

ตรวจเช็คมัลแวร์ ด้วยบริการแบบออนไลน์ : การใช้บริการสแกนไวรัสไม่ก็มัลแวร์ออนไลน์ก็มีส่วนช่วยให้การดาวน์โหลด ปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยบริการเหล่านี้มีอยู่มากมายบนโลกอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น Norton, McAfee, Bit Defender, Panda ด้วยกันอื่นๆ อีกมากมายให้เราเปิดเว็บไซต์และเร่ำลือกการสแกนในเบื้องต้นกับไฟล์ที่จะดาวน์โหลดก็เป็นอีกทางเเลื่องกหนึ่งที่น่าสนใจ

กระบวนการเหล่านี้เป็นวิธีการที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจพร้อมด้วยวางใจได้ว่า จักมีความปลอดภัยมากขึ้นในการดาวน์โหลดไฟล์ โปรแกรมมาใช้ อย่างน้อยๆ ได้เป็นหนึ่งในข้อสังเกตที่ทำให้การเลือเลื่องกใช้โปรแกรมที่ดาวน์โหลดมาอย่างมี ประสิทธิภาพ ไม่ต้องเสียอารมณ์กับการดาวน์โหลดไฟล์ที่เสียเวลานาน แต่ไม่คุ้มกับการใช้งาน

ขอบคุณที่มาของภาพ: nvareader.com, www.graphicsfuel.com

ที่มา: http://hitech.sanook.com/1393201

5 สิ่งที่เชื้อสายพานพบ เมื่อผู้อาวุโสใช้โซเชียลฯ

กลายเป็นปัญหาระดับชาติไปแล้ว เนื่องด้วยการติดโซเชียลเน็ตเวิร์ค ซึ่งทันทีไม่ใช่แค่วัยรุ่น วัยทำงาน อย่างพวกเราเท่านั้นพ่อแม่รวมถึงท่านผู้ใหญ่ในบ้านของเราก็ด้วย มาดูกันดีกว่าว่า 5 ข้อ ที่ลูกๆ หลานๆ

หลายบ้านต้องเจอ ตราบผู้ใหญ่ขึ้นต้นใช้โซเชียล มีอะไรบ้าง

1.ข้อความฟอร์เวิร์ดเมล์

วัยรุ่นอย่างเราเปลี่ยนมาแล้วกับยุคที่ส่งฟอร์เวิร์ดเมล์ ข้อความขำๆ หรือข่าวลวงๆแต่ผู้ใหญ่ของเราท่านไม่เคยเจอ แม้พวกเราจะเตือนแล้ว แย้มแล้วว่ามันไม่ยิ่งแต่ก็จะพบว่ามีข้อความนี้ส่งมาในโปรแกรมสนทนาซึ่งเป็นกรุ๊ปแชทของบ้านอยู่ตลอด

2.มหกรรมสาดสติ๊กเกอร์ใส่

เคยไหมแบบเปิดมือถือมา เจอข้อความแจ้งเตือนเป็นร้อยไอ้เราก็นึกว่ามีเหตุด่วนเหตุร้อนเปิดมาปรากฎว่าเป็นการสาดสติ๊กเกอร์แข่งกันแบบไม่มีสาเหตุของลุงๆป้าๆ

3. รูปแท็กนั้น ที่ฉันไม่ต้องการ

ปกติก่อนจักลงเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรมเชื่อว่าทุกคนต้องตัดผ่านการจัดการให้แน่ใจว่า ได้ทะลุสารพัดแอพพลิเคชั่นแต่งภาพก่อนจักโชว์ออกสื่อได้ แต่ผู้ใหญ่หลายบ้านไม่ใช่อย่างนั้น ถ่ายปุ๊ปลงปั๊บหวังดีแท็กมาให้ด้วย

4.ขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก

ในยุคคราวที่เฟซบุ๊กเพิ่งเป็นที่นิยมในไทยเราเชื่อกันว่ามันคือช่องทางการเล่นโซเชียลฯที่ปลอดภัยที่สุดก็เลยเป็นตัวของตัวเองไปหน่อย รูปเมาเรื้อน โพสต์ดราม่าต้องรีบเคลียร์ก่อนกดรับเป็นเพื่อน แล้วก่อนจะโพสต์อะไรคิดดีๆเพราะว่าบางทีพ่อแม่เราก็ไม่เข้าใจ มุขขำๆ ที่โพสต์เล่นๆ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตไป

5.ดราม่า? อ่านแล้วไม่ตอบ ไม่กดไลค์ ไม่คอมเม้นท์

อันนี้น่ากลัวสุด บางทีเราเปิดอ่านดูก็เห็นว่าไม่มีอะไร ก็เลยไม่ตอบกลับไม่ใช่หรือบางทีก็ทำงานยุ่งจนไม่ได้เช็คเฟซบุ๊ก ปรากฏว่ามีถามว่าทำไมไม่กดไลค์ไม่รักไม่สนใจใช่มั้ย กลายเป็นเรื่องดราม่าไปซะงั้น

สุดท้ายนี้อยากจะเผยว่าบางทีที่ผู้ใหญ่มาขึ้นต้นใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเค้าอาจแค่ตะกลามใกล้ชิดลูกหลานอย่างเราก็เท่านั้นเอง

อาจจักพิมพ์ผิดบ้างถามห้วนๆบ้าง หรือไม่รัวส่งสติ๊กเกอร์ใส่บ้าง แต่เชื่อเถอะแค่เราตอบกลับไปสั้นๆหรือไม่เข้าไปกดไลค์ ไปคอมเม้นท์แซวบ้างอะไรบ้าง แค่นี้ท่านก็มีความสุขแล้ว

ที่มา: http://hitech.sanook.com/1393117

5 สัญญาณที่บ่งชี้ว่าคุณแนบมือถือเหรอเปล่า

5 คำสัญญาณที่บ่งชี้ว่าคุณติดมือถือไม่ก็ไม่  คุณติดมือถือเกินไปรึเปล่า ลองมาเช็คกันดู!!

ปัจจุบัน..การใช้งานอินเตอร์เน็ตบนมือถือเป็นที่นิยมอย่างมากพร้อมด้วยเหมือนกลายเป็นชีวิตประจำวันไปแล้ว ดังนั้น จักเห็นได้ว่าส่วนใหญ่คนไทยใช้เวลาหมดไปกับบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือเกือบ 1 ใน 3 ของวัน



ดังนั้น มายด์เทอร่า ผู้ให้บริการด้านระบบรักษาความปลอดภัยไอทีเหรอไอทีซีเคียวริตี้แบบครบวงจร จะแนะนำวิธีการตรวจสอบว่าคุณนั้นเป็นหนึ่งในคนเหล่านี้ไม่ก็ไม่

1.    อยู่กับหน้าจอมือถือตลอดเวลาถึงแม้จะอยู่ในงานเลี้ยง หรือไม่ งานต่างๆ

2.    ใช้เวลาทั้งหมดที่อยู่คนเดียว ไปอยู่กับการเล่นบนมือถือ

3.     โพสต์เฟสบุ๊คแทบจะตลอดทั้งวัน

4.     มือถือเป็นสิ่งแรกพร้อมกับสิ่งสุดท้ายที่คุณใช้ก่อนนอน.. ด้วยกันยังเป็นสิ่งแรกที่ใช้ครั้นเมื่อตื่นนอนอีกด้วย

5.     หยิบมือถือมาเล่นเวลาขับรถ

คุณเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นหรือไม่..

ที่นา;http://hitech.sanook.com/1393013

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> hitech.sanook.com

เชื่อมต่อ iPhone / iPad พร้อมกับจอทีวี หรือจอคอมพิวเตอร์ ทำได้อย่างไรบ้าง?

กระหายจะโชว์รูปบน iPhone / iPad ให้เพื่อนดู แต่หน้าจอดันไม่ใหญ่พอ ทำอย่างไรดี? คำถามนี้ เชื่อได้เลยว่า ผู้ใช้ iPhone พร้อมกับ iPad ส่วนใหญ่คงจักประสบกับปัญหาดังกล่าวอย่างแน่นอน

เป็นแน่แท้อยู่ที่ iPhone 6 พร้อมทั้ง iPhone 6 Plus มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม หรือ iPad Air ที่มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 9.7 นิ้ว แต่ยังคงไม่ใหญ่พอ ที่จะโชว์คอนเทนต์ให้กับกลุ่มเพื่อนๆ ได้ชม

ซึ่งวิธีการแก้ไขก็คือ เชื่อมต่อกับ ทีวี เหรอ หน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อขยายขนาดนั่นเอง แต่จะทำอย่างไร ให้ iPhone กับ iPad ศักยเชื่อมต่อกับหน้าจอดังกล่าวได้ วันนี้เรามีเคล็ดลับมาบอกเล่าครับ

วิธีแรก : HDMI adapter

อุปกรณ์เสริมพื้นฐาน ที่จะช่วยทำให้สมรรถเชื่อมต่อ iPhone ไม่ก็ iPad เข้ากับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ใช่ไหมทีวีได้ ก็คือ สาย HDMI adapter นั่นเอง โดยอุปกรณ์เสริมชนิดนี้ จะเป็นการแสดงภาพที่อยู่บนหน้าจอ iPhone ไม่ใช่หรือ iPad ไม่ว่าจักเป็น แอปพลิเคชัน, เว็บไซต์, Presentation, รูปภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย ทะลวงทางจอโทรทัศน์ ไม่ก็หน้าจอคอมพิวเตอร์ นั่นเอง แต่อย่าลืมว่า ทีวี และหน้าจอคอมพิวเตอร์ จักต้องรองรับการแสดงภาพข้ามทาง HDMI ด้วยเช่นเดียวกัน

เพราะว่า HDMI adapter มีจำหน่ายบน Apple Store ครับ

วิธีที่สอง : แสดงผลเปลี่ยนทาง Apple TV เหรอ AirPlay

Apple TV เป็นผลิตภัณฑ์ที่เอาใจคอบันเทิงโดยเฉพาะ คุณสมบัติของ Apple TV ก็คือ ศักยเปลี่ยนห้องนั่งเล่นธรรมดาๆ ให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์ที่สร้างความบันเทิงให้กับคนในครอบครัวได้นั่นเอง เพราะว่าการสตรีมภาพจาก iPhone พร้อมทั้ง iPad ไปยังหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นนั้น จักทำทะลวงฟีเจอร์ที่เรียกว่า AirPlay ครับ พางแค่คลิกเดียว ก็สามารถอวดภาพถ่าย เหรอคลิปวีดีโอ ให้เพื่อนๆ ใช่ไหมครอบครัวได้ชมกันแล้ว

วิธีที่สาม : ทะลวงแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Reflector

ถ้าหาก 2 วิธีข้างต้น เป็นการสิ้นเปลือเลื่องงเงินมากจนเกินไป วิธีสุดท้ายที่จักมาแนะนำ นั่นก็คือ สร้างผ่านแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Reflector ครับ เพราะแอปพลิเคชันนี้ จักเป็นการรับภาพจาก iPhone ใช่ไหม iPad ทะลวงทาง AirPlay เพื่อแสดงภาพข้ามทางหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบไร้สาย ซึ่งจะเชื่อมต่อสร้างผ่านทาง Wi-Fi หรือ LAN เดียวกัน พร้อมทั้งเมื่อเชื่อมต่อเสร็จแล้ว หน้าจอ iPhone ใช่ไหม iPad ของเรา จะไปปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ นั่นเอง

เพราะว่าโปรแกรม Reflector จะมีเวอร์ชันทดลองให้ใช้ด้วย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ ที่นี่ ครับ

ที่มา: http://thaizones-hitech.blogspot.com/

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> hitech.sanook.com

มาแล้ว! Samsung Galaxy S6 Concept โปร่งบางเฉียบเพียง 6.7 มิลลิเมตร

แม้ว่าเวลานี้ จะยังไม่มีข้อมูลยืนยันอย่างเป็นทางการว่า Samsung Galaxy S6 นั้น จะมาพร้อมดีไซน์ พร้อมด้วยสเปคที่แรงบาดใจแค่ไหน แต่ล่าสุด ได้มี Samsung Galaxy S6 Concept ภาพคอนเซปท์ออกมาให้ชมแบบอุ่นเครื่องกันแล้ว

เพราะสเปคของ Samsung Galaxy S6 Concept รุ่นนี้ มาพร้อมกับหน้าจอกว้าง 5.2 นิ้ว ความละเอียด Quad HD, ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 810, ลำโพงเสียงแบบ Stereo กับกล้องด้านหลัง ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น OIS นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังเป็นแบบ Unibody บางเฉียบแค่ 6.7 มิลลิเมตรเท่านั้น

ส่วน Samsung Galaxy S6 เครื่องจริง จักมีดีไซน์เป็นเช่นไร ติดตามกันได้ช่วงต้นปีหน้า

ซัมซุง เริ่มทำซุ่มพัฒนา Samsung Galaxy S6 แล้ว คาดเปลี่ยนดีไซน์ใหม่หมด

ถ้าสมมุติ Samsung Galaxy S5 ยังไม่ถูกใจ ท่านใดที่รอ Samsung Galaxy S6 อยู่ คงต้องเตรียมเก็บเงินไว้แต่เนิ่นๆ แล้ว เพราะว่าล่าสุด เว็บไซต์ SamMobile รายงานว่า Samsung Galaxy S6 กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาแล้ว ภายใต้โค้ดเนมที่มีชื่อว่า Project Zero

ถึงแม้ว่าในคราวนี้ จะยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับ สเปค, ดีไซน์ รวมไปถึงรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับ Project Zero บน Samsung Galaxy S6 ออกมา แต่แหล่งข่าวเชื่อว่า Samsung Galaxy S6 รุ่นนี้ น่าจักเป็นรุ่นชูโรงของทางซัมซุงเลยก็ว่าได้ แต่น่าจะได้รับการออกแบบใหม่หมด ให้มีความเป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งแตกต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ

นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังเชื่ออีกว่า Samsung Galaxy S6 นั้น คงจักเป็นรุ่นความหวังของซัมซุง หลังจากที่ Samsung Galaxy S5 ทำยอดขายไม่ได้ตามเป้า ต้องคอยติดตามกันว่า Samsung Galaxy S6 จะมีคุณสมบัติที่โดนใจมากแค่ไหน

ที่มา: http://thaizones-hitech.blogspot.com/2014/11/samsung-galaxy-s6-concept-67.html

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> http://thaizones-hitech.blogspot.com

Hitech Gallery

• 
• Samsung Galaxy S6 Concept

• 
• Samsung Galaxy S6 Concept

• 
• Samsung Galaxy S6 Concept

• 
• Samsung Galaxy S6 Concept

• 
• Samsung Galaxy S6 Concept

• 
• Samsung Galaxy S6 Concept

• 
• Samsung Galaxy S6 Concept

วิธีมอง iPhone ย้อมเจ้าเหมียว !! แบบ 100%

กันไว้ดีกว่าซวย วิธีดู iPhone ย้อมแมว !! แบบ 100/100%

กลายเป็นประเด็นที่กำลังมีการพูดถึงอยู่บนโลกออนไลน์ในครั้งนี้เหตุด้วยกรณีของ iTruemart ที่กลายเป็นเด็นขึ้นมาพอมีสมาชิกในเว็บชื่อดังอย่าง Pantip มาตั้งกระทู้แสดงความสงสัยเกี่ยวกับเครื่อง 
iPhone 6 ที่ได้สั่งซื้อจาก iTruemart เกี่ยวกับประเด็นที่ว่า iPhone 6 จาก iTruemart เอาเครื่องย้อมแมวมาขาย

พร้อมทั้งกลายเป็นเรื่องใหญ่(มว๊าก)จนมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย พร้อมทั้งมีลูกค้าบางรายของ iTruemart ที่เจอเครื่องลักษณะใกล้เคียงกันออกมาแสดงความคิดเห็นมากมายทั้งในด้านบวกพร้อมด้วยลบ

บางส่วนของความคิดเห็น

บางส่วนของความคิดเห็น

จนทำให้ iTruemart ต้องออกมาแถลงข่าวพร้อมทั้งอธิบายถึงเรื่องราวพร้อมทั้งปัญหาที่เกิดขึ้น

เรียนท่านลูกค้า iTrueMart ที่เคารพ 

ทาง iTrueMart ขอชี้แจงเรื่องเครื่อง iPhone 6 จากข้อความใน Social Network ดังนี้ครับ

ทาง iTrueMart ขอยืนยันนโยบายการขายสินค้าเครื่องศูนย์ทรูแท้ทุกเครื่อง

เนื่องด้วยทาง iTrueMart เป็นผู้ให้บริการออนไลน์อย่างเป็นทางการภายใต้กลุ่มทรู ซึ่งเป็น Apple authorized distributor ตามนโยบายจาก Apple ทาง iTrueMart
ต้องทำการ Activate เครื่อง เพื่อตรวจสอบสินค้าให้มีความมั่นใจว่า ลูกค้าจะใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ เสมือนพนักงานที่หน้าทรูช้อปทุกประการ 

ในการ Activate เครื่อง จึงส่งผลให้ warranty ของเครื่องจะมีการตั้งต้นต้นขึ้น ซึ่งอาจจะอยู่ในช่วง 2-7 วันก่อนที่ท่านลูกค้าจักได้รับสินค้าเพราะว่าเวลาในการจัดส่งสินค้าถึงบ้าน

ทั้งนี้หลังจากทำการ Activate เรียบร้อยแล้ว เราจักต้องทำการห่อหุ้มกล่องสินค้าใหม่ เพื่อจัดส่งให้ลูกค้า ทำให้การห่อหุ้มอาจจะดูไม่เหมือนเดิม ทางเรารับทราบถึงปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพในการห่อหุ้มสินค้าใหม่
พร้อมกับขอยีนยันว่าการหุ้มห่อสินค้าใหม่ ไม่ได้มีผลกับตัวเครื่อง iPhone แต่อย่างใดครับ

ทาง iTrueMart เราต้องขออภัยเป็นอย่างสูงกับจักปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่งๆขึ้นไปครับ ขอขอบพระคุณอย่างสูงครับ

คณะงาน iTrueMart

ทั้งหมดที่ทางหมู่งาน Sanook! Hitech ได้นำมาเสนอด้านบนนั้นเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของเสียงสะท้องบนโลกโซเชียลบางส่วนเท่านั้นกับนี้คือเหตุผลดีๆ ของโซเชียลที่ทำให้ข้อมูลเหล่านี้มีการเปิดเปิดปากพร้อมกับทำให้หลายๆ ที่ได้รับผลกระทบออกมารับผิดชอบด้วยกันแก้ไขส่วนที่บกพร่อง เป็นที่มาของคำว่า โลกในโซเชียลมันกว้างไม่มีขีดจำกัดแท้ๆ 

ในทันทีที่เปิดประเด็นเกี่ยวกับเรื่องการนำเอาเครื่องเก่า ไม่ใช่หรือมือ2 มาย้อมแมวมาขายแล้ว ทางหมู่งานเลยขอหยิบบทความเก่าเรื่อง วิธีดู iPhone ย้อมแมว !! มาให้อ่านกันครับเผื่อจักได้นำไปเป็นข้อมูลแม้เจอกรณีแบบนี้ เพราะสามารถใช้ได้ทั้งเครื่องศูนย์ เครื่องตู้ MBK วันนี้ผมจักมาสอนดูให้หายงงกันไปเลยกับ วิธีดู iPhone ย้อมแมว !! เพราะ Dl3Store !!

ง่ายๆ ทั้งหมด 3 จุด กับมีข้อจุดสังเกตยากๆอีก 2 จุดดังนั้นเพื่อความชัวส์จำได้เท่าที่จำได้นะครับ

ภาพประกอบจากพันทิพ

อันดับ1 ถามก่อนครับ คุณคิดว่าเครื่องไหนในภาพนี้ คือเครื่องย้อมแมวครับ !!! คำตอบคือ เครื่องที่มีซีลการห่อเครื่องแบบแข็งครับเป็นเครื่อง Re-packing หรือไม่เครื่องห่อมาใหม่นั้นเอง เพราะทาง Apple ถ้าคุณสังเกตดีๆ เครื่องใหม่ทุกเครื่องจะมีตำหนิของซีลเป็นซีลแบบซีลนิ่ม และ มีมุมของซีลหรือไม่ที่เราเรียกกันว่าจุดที่ซีลมาห่อตัวรวมกันด้วยความร้อนนั้นเองครับ

เพราะว่าที่ซีลแท้ตามภาพกล่องล่างจักมีซีลที่หุ้มตรงมุมกล่องที่จะดูเรียบกว่ากล่องด้านบนที่เป็น Re-Packing มานั้นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่เหมือนกันหมดครับ เพราะทาง True มักจะมีการแกะเครื่องและห่อด้วยซีลใหม่ที่เรามักจักเรียกกันว่าซีลแก้ว

ซึ่งซีลแก้วนี้จักมีคุณสมบัติที่แข็งกว่า ซีนนิ่มของทาง Apple อยู่ครับ ดังนั้นต่างว่าจับซีลพร้อมทั้งดูตำหนิการห่อตามภาพแล้วไม่แน่ใจ ให้เข้าเว็ป Apple เพื่อเช็คประกันโดยการเอาเลขหลังกล่องใส่ลงไปเพื่อตรวจดูว่าประกันเดินหรือว่า ยังครับ >> เว็ปเช็คประกัน Apple

ภาพจาก Sanook

อันดับที่2 หน้าจอครับ สมมติขั้นตอนแรกสร้างผ่านแล้ว มาดูขั้นตอน 2 ให้เราเกะเครื่องมาเช็คความสว่างของหน้าจอ เพราะการเปิดแสงสว่างแบบเต็มสุดๆ พร้อมด้วยดูตำแหน่งบนจอเช่น สี สีของจอ สีของแสงไฟ ด้วยกันสีของเม็ดสีบนจอ สมมตจอเหฟุ้งเฟื่องง ไม่ใช่หรือ แสงไฟบนจอมีตำแหน่งใดก็ตามที่แสดงสว่างดรอปไป

แน่นอนครับว่าเครื่องนั้นมีการใช้งานมานานแล้ว เพราะว่าปกติ iPhone กว่าจอจะเหโจษงก็ต้องใช้งานมานานมากๆแล้ว ยกเว้นแต่จักเป็นปัญหาจากการผลิต (ถ้าใช่ให้ข้ามไปข้อ3) ดังนั้นให้ลองปรับสุด กับ ดูจากจอเป็นหลักครับ

อันดับที่3 อันนี้คือตำแหน่งของน็อต , ถาดใส่ซิม และ สวิตซ์บนเครื่อง น็อตของ iPhone ทุกรุ่นตั้งแต่ iPhone4 จะเป็นน็อตแบบ 5 แฉกแบบในภาพ พร้อมทั้งจักมีแค่บางรุ่นของ iPhone4 ของบางประเทศที่น็อตจักเป็นแบบ 4 แฉกเท่านั้น จะต้องมีตำแหน่งที่ทั้งสองตัว หมุนไม่เท่ากัน และ หัวน็อตจักไม่ยุบหรือ สกูลยุบลงไปอย่างเด็ดขาด

รวมถึงสวิตซ์ต่างๆบนเครื่องจะต้องไม่มีการขยับหรือว่าหลวมเช่นปุ่ม Power , Vol + - เป็นต้น สับสั้นจะต้องไม่ดังแกร๊กๆ ภายใน พร้อมทั้งโทรเข้าเวลาสั้นจักต้องไม่มีเสียงอะไรดังผิดปกติ ลำโพงต้องไม่แตกเวลาเปิดดังสุด คนโทรเข้าออกจักต้องได้ยินชัดเจน

ให้คำมั่นณต้องไม่ขายหายไม่สวิงกับถาดใส่ซิมเนื่องด้วย iPhone4,4S จักต้องมี Code พิมที่ถาดเป็น IEMI เครื่องต้องตรงกับถาดนะครับ เนื่องด้วย iPhone5,5S ไม่มีครับ

อันดับที่4 ถ้าเครื่องใหม่แน่แท้ๆจักต้องมีฟิล์มจาก โรงงานของ Apple เป็นใสๆ ปิดมาทั้งหน้าพร้อมกับหลัง ดังนั้นถ้าต่างว่าถ้าแกะออกมาจากกล่องไม่มี แสดงว่าไม่ใช่แล้วนะครับผม จะต้องมีสติกเกอร์ใสๆ จาก Apple ปิดมาตั้งแต่อยู่ในกล่องครับ

เหมือนเท่านี้ก็รอดพ้นจากการโดนต้มแล้วครับ การเช็คขั้นตอนดูมีความหลากหลายออกไปตามแต่คนเละบือกดูนะครับ ดังนั้นของผมแค่ชี้ทางสั้นๆ ให้แต่ได้ผลแน่นอน

และอีกอย่าง iPhone 3GS ถ้ามือ 1 จะมีก็มีแค่ iPhone3GS 8 GB นะครับ ส่วน 16 ด้วยกัน 32 หยุดการผลิตไปนานแล้วครับจึงไม่มีมือ 1 พร้อมกับ iPhone 4 8GB จักมีแต่มือ 1 แต่ 16GB - 32 GB ไม่มีมือ 1 แล้วครับตัวนั้นดูตำแหน่งของการดูให้ดีๆแล้วคุณจักได้ของดีมาอยู่กับตัวคุ้ม ค่าการเสียเงินไปแล้วแน่นอนครับ

ขอบคุณ Pantip.com เหตุด้วยภาพประกอบ ขอบคุณ Dr.Bia ด้วยว่าเนื้อหาพร้อมทั้ง Edit สนับสนุนเนื้อหา: Dr.Bia

ที่มา: http://thaizones-hitech.blogspot.com/2014/11/iphone-100.html

ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> http://thaizones-hitech.blogspot.com